หน่วยที่ 3 การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา
3.3 คำสั่งทางเลือก (IF -else)
หน่วยที่ 3 การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา
3.3 คำสั่งทางเลือก (IF -else)
คำสั่ง if – else ใช้สำหรับ ตัดสินใจเลือกทำงาน ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง (True) → ทำคำสั่งในบล็อก if
ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ (False) → ทำคำสั่งในบล็อก else
2. โครงสร้างพื้นฐาน
if เงื่อนไข:
คำสั่งเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
else:
คำสั่งเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ
หมายเหตุ:
ต้อง เว้นบรรทัด 4 ช่องหรือ 1 tab หลัง if และ else
เงื่อนไขมักเป็น การเปรียบเทียบ เช่น ==, !=, <, >, <=, >=
score = int(input("กรอกคะแนน: "))
if score >= 50:
print("สอบผ่าน")
else:
print("สอบไม่ผ่าน")
การทำงาน
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 50 → แสดง "สอบผ่าน"
ถ้าน้อยกว่า 50 → แสดง "สอบไม่ผ่าน"
4. ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison Operators)
ใช้เมื่อมีมากกว่า 2 เงื่อนไข
score = int(input("กรอกคะแนน: "))
if score >= 80:
print("เกรด A")
elif score >= 70:
print("เกรด B")
elif score >= 60:
print("เกรด C")
elif score >= 50:
print("เกรด D")
else:
print("เกรด F")
ใช้ and, or, not เชื่อมเงื่อนไข
age = int(input("กรอกอายุ: "))
if age >= 13 and age <= 19:
print("คุณเป็นวัยรุ่น")
else:
print("คุณไม่ใช่วัยรุ่น")
โปรแกรมตรวจสอบเลขคู่หรือคี่
num = int(input("กรอกตัวเลข: "))
if num % 2 == 0:
print("เป็นเลขคู่")
else:
print("เป็นเลขคี่")
งานที่ 11 แบบฝึกหัด: คำสั่ง if – else
คำสั่ง : ให้นักเรียนทำโจทย์ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง โดยใช้ภาษา Python(ไพทอน) ในการแก้ปัญหา
รับคะแนนแล้วตรวจสอบว่า
ถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 50 → แสดง "สอบผ่าน"
ถ้าน้อยกว่า 50 → แสดง "สอบไม่ผ่าน"
รับอายุแล้วตรวจสอบว่า
ถ้าอายุมากกว่า18 แสดงผลเป็น "ผู้ใหญ่"
และอายุต่ำกว่า 18 ปี แสดงผลเป็น"เยาวชน"
รับตัวเลขแล้วตรวจสอบว่าเป็น "เลขคู่" หรือ "เลขคี่"